บทความพิเศษ by Play : ย้อนรำลึกเกม Kamen Rider ไอ้มดแดงอาละวาด!!
“สู้ต่อไปทาเคชิ” วลีอมตะนี้ไม่ได้หมายถึงทาเคชิจากปราสาทโหดมันส์ฮา หรือ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ดาราชื่อดังของเอเชีย แต่มันเป็นวลีปิดตอนที่กล่าวอวยพรแก่ ฮอนโก ทาเคชิ หรือที่เรารู้จักในชื่อ Kamen Rider ซึ่งเป็นที่คุ้นกันในนามของคนไทยว่า ไอ้มดแดง นั่นเอง นำแสดงโดยคุณฟุจิโอกะ ฮิโรชิ ซึ่งถ้านับจนถึงปัจจุบัน ซีรีส์นี้ก็มีอายุปาเข้าไปแล้ว 45 ปีพอดี (ฉายครั้งแรกในปี 2514)
เหตุผลที่เรากล่าวถึงนี้ เนื่องด้วยแฟนๆ ไอ้มดแดงกำลังได้รับของขวัญพิเศษด้วยภาพยนตร์เรื่อง Kamen Rider No.1 ซึ่งเป็นการกลับมารับบทบาทเป็นฮอนโก ทาเคชิ อีกครั้งของคุณฮิโรชิ และจะได้ฉายในประเทศไทยโดย Dex ซึ่งหากใครต้องการจะย้อนกลับไว้ไปหายอดฮีโร่คนนี้ ติดตามหารอบได้ในเพจของ Dex ตามลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนี้เราอ่านบทความจาก play ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เว็บฮีโร่ซะหน่อยไม่ครับคุณอ่านถูกแล้ว เราแค่อยากจะร่วมฉลองการกลับมาของ 1 ในฮีโร่ขวัญใจตลอดกาลของคนไทยตนนี้ ด้วยการพูดถึงเกมจาก Kamen Rider นั่นเอง
ว่าแต่เกมจากซีรีส์ Kamen Rider เยอะออกจะตาย หากเขียนจริงคงต้องต่อกัน2-3 บทความไม่รู้จะหมดมั้ย ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้เราจะเล่าถึงเกมที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายนี้ นั่นคือ Kamen Rider นั่นเอง
เกม Kamen Rider เป็นเกมแนว 3D Fighting บนเครื่อง PlayStation พัฒนาโดย Bandai ร่วมกับสตูดิโอ Kaze โดยจับเอาเรื่องราวใน Kamen Rider ภาคแรก มาตัดย่อให้กลายเป็นเกมขนาดสั้น เหมาะสมกับแฟนๆ ของ Kamen Rider ได้ย้อนวัยกันอีกรอบนึง โดยตัวเกมจะเหมือนเกมไฟท์ติ้งทั่วไปครับ เป้าหมายหลักคือการโค่นเป้าหมายด้วยกระบวนท่าต่างๆ ซึ่งในเกมจะมีท่ามากมายให้กดแบบเกมไฟท์ติ้งทั่วไปเลย ควงจอย ขยี้จอยให้แหลกมือไปข้าง แต่จริงๆ เราสามารถโกงด้วยการปรับ Option ให้ท่าไม้ตายของตัวละครกดใช้ได้ในปุ่มเดียวด้วย แต่ก็ยังมีท่าลับอีกมากมายให้เลือกใช้ โดยรวมเรื่องของเกมเพลย์ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่แต่อย่างใด ซึ่งตัวละครก็มีให้เราเลือกคือ ไรเดอร์หมายเลข 1 และ 2 กับปีศาจฝั่งช็อคเกอร์อีก 10 ตัว ตัวเกมก็จะมีโหมดให้เล่นคือ โหมดเนื้อเรื่อง โหมดอาเขด โหมดเซอร์ไววัล และโหมดปะทะกันแบบเกมไฟท์ติ้งทั่วไป
แต่จุดที่น่าสนใจของเกมคือโหมดเนื้อเรื่องครับ โหมดเนื้อเรื่องจะมีให้เราเลือก 2 ฝ่าย คือฝ่ายไรเดอร์กับช็อคเกอร์หรือองค์กรตัวร้าย ทางด้านไรเดอร์จะให้เราเล่นเนื้อเรื่องของซีรีส์ที่โดนลดความยาว 98 ตอนให้เลือกเพียง 10 ด่าน ซึ่งจะไม่ต่างอะไรกับโหมดอาเขด เพียงแต่ในตอนเริ่มด่านเราจะได้ปะทะกับเหล่าลูกน้องช็อคเกอร์ (หรือรู้จักในชื่อ กี๊กี๊) แล้วจึงค่อยปะทะกับปีศาจประจำตอน โดยครึ่งทางเราจะได้เปลี่ยนเป็นไรเดอร์หมายเลข 2 และกลับมาเป็นไรเดอร์ร่างพัฒนา และปิดฉากเกมด้วยไรเดอร์หมายเลข 2 ซึ่งระหว่างทางจะมีฉากคั่นตอน มีแนะนำตอนต่อไปเหมือนซีรีส์ แต่โดยทั่วไปไม่ได้มีอะไรน่าหวือหวา
ที่เด่นจริงๆ เลยคือเนื้อเรื่องฝั่งช็อคเกอร์ครับ ที่ในตอนนั้นไม่เคยมีเกมไรเดอร์เกมไหนให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ในการเล่นเป็นองค์กรช็อคเกอร์ โดยในเนื้อเรื่องจะเป็นการให้เรารับบทเป็น 1 ในปีศาจขององค์กร รับหน้าที่ไปจัดการไรเดอร์เพื่อแผนครองโลก แต่ว่าก่อนจะไปถึงจุดนั้นเราต้องผ่านการทดสอบโดยการสู้กับปีศาจตนอื่นก่อน และจากนั้นเราจะได้รับการพัฒนาเพื่อไปสู้กับไรเดอร์ทั้ง 2 ทั้งนี้ ในแง่ของการพัฒนาเราสามารถจะเลือกพัฒนาอะไรก็ได้ ตั้งแต่พลังโจมตี พลังชีวิต หรือแม้แต่ลูกน้องที่ออกไปสู้ก่อน นอกจากเราจะได้สัมผัสรสชาติใหม่แล้ว โหมดนี้ความยากยังจัดว่าสูงด้วยครับ เพราะโหมดนี้เราต้อง “ห้ามแพ้” เด็ดขาด แพ้คือเกมโอเวอร์ทันทีไม่มีโอกาสแก้ตัว จึงนับเป็นโหมดการเล่นที่โคตรหิน แต่สนุกท้าทายที่สุดในเกม
และนอกจากนี้ เมื่อเราเล่นเกมจบในโหมดใดโหมดนึง เราจะได้รับแต้มในการ์ดจับการ์ดสะสม การ์ดนี้ถอดแบบมาจากขนม Kamen Rider Snack สมัยตอนซีรีส์ยังฉายอยู่ ซึ่งจะแถมการ์ดไรเดอร์ในทุกๆ ซอง (ดูโฆษณาได้ที่ด้านล่างเลยครับ)
ซึ่งการ์ดในเกมก็จะเป็นการ์ดไว้สำหรับดูภาพต่างๆ ในซีรีส์ และบางการ์ดจะแถมโฆษณาของเล่นยุคก่อนให้เราด้วย ซึ่งไม่ได้มีอะไรพิเศษนอกจากสะสมสวยๆ แต่หากจะสะสมครบก็ยากพอดู ยิ่งสะสมมากเท่าไหร่โอกาสเราจับได้การ์ดซ้ำก็มากขึ้นเท่านั้น ถ้าแต้มหมดก็ต้องไปเล่นเกมสักโหมดเพื่อเอาแต้มจับการ์ดมา ฉะนั้นหากใครจะเอาการ์ดครบ อาจต้องเล่นข้ามเดือนกันเลยทีเดียว
น่ายินดีที่ตัวเกมได้รับความนิยมระดับนึง จึงก่อให้เกิดภาคต่อและเส้นทางเกมไฟท์ติ้งไรเดอร์ในอนาคตจนปัจจุบัน โดยภาคต่ออย่าง Kamen Rider V3 ก็พัฒนาระบบให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เราจะพูดถึงในภายหลัง สรุปแล้วเกม Kamen Rider อาจไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยมจนน่าจดจำ แต่มันก็เป็นเกมที่สนองแฟนๆ ไรเดอร์ได้ดี การเปิดมุมมองให้เราเล่นเป็นฝ่ายช็อคเกอร์ถือว่าทำได้สนุกและท้าทาย จึงถือเป็น 1 เกมที่แฟนๆ ไรเดอร์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น