วันนี้ในอดีต by play: 29 เมษายน
วันที่ 29 เมษายน 2543 หรือวันนี้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม JoJo's Bizarre Adventure หรือที่เรียกกันในชื่อไทยว่า "โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ" บนเครื่อง PS1 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโจโจ้ภาคดังกล่าวเป็นเกมแนวไฟท์ติ้งที่พัฒนาโดยบริษัท Capcom ที่มีผลงานในการทำเกมไฟท์ติ้งมาแล้วมากมาย อาทิ Street Fighter, Darkstalkers และ Rival Schools เป็นต้น และทีมที่เข้ามาพัฒนาเกมโจโจ้ภาคนี้ก็เป็นทีมเดียวกับที่พัฒนาเกม Street Fighter III นั่นเอง
พล็อตของ Story Mode ในเกมนี้จะเป็นช่วงไทม์ไลน์ที่เรียกว่า Stardust Crusaders ที่นำโดย คุโจ โจทาโร่ ซึ่งถือเป็นยุคที่ 3 ของซีรีส์นี้ และเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติติดตัวที่เรียกว่า "สแตนด์" โดยพลังดังกล่าวเป็นผลจากอิทธิพลของศัตรูคู่อาฆาตประจำตระกูลโจสตาร์ นั่นก็คือ ดีโอ แบรนโด ซึ่งแม่ของโจทาโร่ก็ถูกปองร้ายด้วยฝีมือของดีโอ ทำให้โจทาโร่และพรรคพวกจึงต้องออกตามล่าดีโอเพื่อค้นหาวิธีมารักษาแม่ของตนเองให้ได้
เกมเพลย์ของเกม JoJo's Bizarre Adventure จะใช้องค์ประกอบความเป็นเกมไฟท์ติ้งเข้ามากำหนดรูปแบบของเกมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการโจมตี เทคนิคการต่อสู้ รวมถึงแถบพลังชีวิตและเกจคอมโบ เมื่อใดก็ตามที่ตัวละครใช้ท่าไม้ตาย ก็จะมีสแตนด์ปรากฏตัวขึ้นมาระยะนึงเพื่อใช้ท่าไม้ตายนั้น และตัวเกมก็จะมีฟีเจอร์อีกอย่างคือปุ่มเรียกสแตนด์ ที่พอกดแล้วสแตนด์ของตัวละครนั้นๆ จะคอยยืนประกบตัวผู้ใช้สแตนด์ตลอดเวลา การเปิดโหมดนี้จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ผู้ใช้สแตนด์ได้ รวมไปถึงใช้ท่าไม้ตายบางท่าที่ต้องใช้ในโหมดเรียกสแตนด์ได้ อย่างไรก็ตาม การเปิดโหมดเรียกสแตนด์จะมีข้อควรระวังอยู่อย่างนึงคือ หากสแตนด์ของผู้เล่นโดนโจมตี ตัวละครที่ใช้สแตนด์นั้นก็จะเสียพลังชีวิตตามไปด้วย นอกจากนี้ก็จะมีโหมด Versus สำหรับเล่นสู้กันเอง 2 คน ตลอดจนโหมด Super Story ที่ผู้เล่นสามารถดำเนินเนื้อเรื่องตามรอยมังงะได้ทุกประการ แถมเนื้อเรื่องช่วงคู่ต่อสู้บางตัวก็จะเป็นมินิเกมในสไตล์ต่างๆ ที่คล้ายกับบอร์ดเกมหรือเกมชู้ตติ้ง เรียกว่าครบรสกันไปเลย
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม JoJo's Bizarre Adventure
- เกมนี้ต้องถือว่าประสบความสำเร็จด้านยอดขาย แต่สวนทางกับคำวิจารณ์จากสำนักรีวิวทั่วไปครับ โดยช่วงที่เกมนี้ออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่นก็สามารถติดอันดับ Best Seller ประจำสัปดาห์ไปโดยปริยาย แถมยอดขายในตะวันตกก็พอไปวัดไปวาได้ แม้ว่าโจโจ้จะเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ดูแล้วไม่น่าจะเจาะตลาดตะวันตกได้เลยก็ตาม แต่ผู้เล่นที่เป็นแฟนการ์ตูนโจโจ้ต่างก็ยกให้ภาคนี้เป็นภาคที่ดีที่สุดของเกมซีรีส์นี้เลย
- สำหรับในประเทศไทยก็จะพบเห็นเกมเมอร์ชาวไทยไปสิงสถิตอยู่ตามร้านตู้เกมอาเขดหยอดเหรียญกันเยอะครับ เช่นเดียวกับเวอร์ชั่น PS1 ที่พบเห็นคนประชันฝีมือกันอย่างหนาตา กอปรกับโจโจ้เป็นเกมที่มาในช่วงรอยต่อของ Street Fighter Alpha 3 กับ Street Fighter III อีกทั้งระบบเกมของโจโจ้ค่อนข้างจะสดใหม่ จึงได้รับความนิยมอยู่มาก
- ตัวละครสาวนามว่า Midler ผู้ใช้สแตนด์ High Priestess ในเวอร์ชั่นมังงะนั้น เราจะไม่เห็นใบหน้าเธอครับ โดยตอนที่ Polnareff ไปเจอ Midler ก็เป็นสภาพนางนอนหงายที่โดนโจทาโร่อัดจนตายไปแล้ว กระทั่งพอมาเป็นเวอร์ชั่นเกม ทาง Capcom เลยไปขอร้องให้คุณฮิโรฮิโกะ อาราคิ ผู้วาดการ์ตูนเรื่องโจโจ้ช่วยดีไซน์หน้าตาของ Midler ให้ใหม่จนเป็นอย่างที่เห็นในเกม
- JoJo's Bizarre Adventure เวอร์ชั่น PS1 จะมีการดรอปกราฟิกและเท็กซ์เจอร์จากเวอร์ชั่นตู้อาเขดหยอดเหรียญไปพอสมควรครับ ที่สังเกตเห็นได้ชัดเลยก็คือสีของตัวสแตนด์แต่ละตัวจะเป็นสีพื้นสีเดียวแล้วไล่ความเข้มของสีเอา ผิดจากเวอร์ชั่นตู้อาเขดและเครื่อง Dreamcast ที่จะแสดงเป็นสีจริงๆ เหมือนในอนิเมะเลย